|
เนื้อเรื่องย่อ
: ขอขอบคุณ ท่านแหะแหะ ที่เอื้อเฟื้อและพิมพ์ข้อมูลส่งมาให้ขอรับ
กระบี่พิศวาส
แต่งโดย ซีเบ๊จี่อิง เรียบเรียงโดย น นพรัตน์
ที่มา: สำนักพิมพ์บรรณกิจเทรดดิ้ง ปีพ.ศ. 2520
บทที่ 1 ดั้นด้นหากระบี่
ภูเขาอึ้งซัว เขตมณฑลอานฮุย เป็นภูเขาเลื่องชื่อ
วัดโค้วอิงยี่ (เหตุแห่งทุกข์) เป็นวัดวาลือนาม
ภูเขาเลื่องชื่อ วัดวาลือนาม ความจริงเป็นสถานท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยว
แต่วัดโค้วอิงยี่กลับอยู่นอกเหนือกฎเกณฑ์
เนื่องเพราะมันตั้งอยู่บนยอดเขางังฮ้วยฮง (ห่านป่าหวน) ที่สูงเสียดเมฆ มีทางคดเคี้ยวลาดชัน
ทอดขึ้นไปเพียงสายเดียว ในหมู่นักท่องเที่ยว มาตรว่ามีคนขวัญกล้าแข็งกำลังวังชาสมบูรณ์
คิดทดลองขึ้นไปแต่ไปได้ไม่กี่สิบก้าว ก็ถูกลมภูเขารุนแรงกรรโชกกลับลงมา
เพราะเหตุนี้ วัดโค้วอิงยี่จึงรักษาความสันโดษไว้ เป็นดินแดนอันสงบของสถาบันสงฆ์อย่างแท้จริง
น่าเสียดายที่เหตุการณ์ในโลกผันแปรไม่แน่นอน เหตุแปรเปลี่ยนประการหนึ่ง ทำลายความสงบที่พึงมีของดินแดนแห่งนี้
มิหนำซ้ำทำลายล้างโดยสิ้นเชิง
นับแต่นี้ในดงสนนอกตัววัด เพิ่มหลุมฝังศพมากมายสุดคณานับ ในเสียงระฆังวัตรค่ำ
ผสานเสียงภูตคร่ำปีศาจครวญ ท่ามกลางควันธูปเปลวเทียน ลอยล่องด้วยวิญญาณอนาถา
ที่ตายด้วยความคับแค้น
เหตุแปรเปลี่ยนนี้ สืบเนื่องจากข่าวการตายของอิวโป้วเซียนจื้อ (เทพธิดากำสรวล)
แพร่สะบัดออกไป
เทพธิดากำสรวลเป็นฉายานามประหลาดพิสดาร ไม่ว่าผู้ใดก็ไม่ทราบชื่อแซ่แท้จริงของนาง
แต่ช่วงเวลาที่นางปรากฏขึ้นสิบปีก่อเกิดมรสุมปั่นป่วน และอาถรรพณ์การฆ่าฟันแก่วงนักเลง
ในรูปโฉมงามพิลาสล้ำของนาง มักแฝงความหม่นหมองรันทด นี่คือที่มาของฉายาเทพธิดากำสรวล
แต่สาเหตุที่นางสะท้านทั่ววงนักเลง คือพลังฝีมืออันลึกล้ำ ที่ลี้ลับสุดหยั่งคาด
และกระบี่วิเศษฟันหยกดุจฟันหยวก คมกล้าสุดเปรียบปานในมือนาง
ใต้คมกระบี่เล่มนั้น ปราศจากคู่มือเปรียบติด มิหนำซ้ำกระบี่เล่มนี้มีมนต์ขลังพิสดารประการหนึ่ง
ผู้ใดครอบครองกระบี่เล่มนี้ จะได้รับรักจากเพศตรงข้าม มาตรว่าเป็นศัตรูคู่อริที่มีความแค้นลึกล้ำ
ภายใต้มนต์ขลังโน้มน้าวจิตใจ สามารถสร้างปรากฏการณ์พิศวาสขึ้น ดังนั้นศัสตราวุธเล่มนี้ถูกขนานนาม
เซ้งเกี่ยม (กระบี่พิศวาส)
ด้วยรูปโฉมงามสะคราญของเทพธิดากำสรวล บวกกับมนต์ขลังของกระบี่พิศวาส บันดาลให้เหล่าบุรุษในวงนักเลง
ติดตามพัวพันนางราวคลุ้มคลั่ง
สุดท้าย คนเหล่านั้นล้วนกลับกลายเป็นวิญญาณใต้คมกระบี่นาง แววหมองหม่นบนใบหน้าเทพธิดากำสรวลไม่เคยเสื่อมคลาย
และไม่เคยมีบุรุษใดได้รับรักจากนาง
สิบปีมานี้ ผู้สังเวยชีวิตใต้กระบี่พิศวาส ยิ่งมายิ่งเพิ่มพูน แววหมองหม่นบนใบหน้าเทพธิดากำสรวลก็ยิ่งมายิ่งลึกล้ำ
มรสุมโลหิตครอบคลุมทั่ววงนักเลง ในที่สุดผู้คนพอได้ยินชื่อนางก็อกสั่นขวัญแขวน
พอพบหน้านางก็หลบลี้หนี ดั่งราวกับเผชิญอสรพิษ
แต่แล้วข่าวน่าตระหนกประการหนึ่ง พลันแพร่สะบัดออกไป
เทพธิดากำสรวลตายแล้ว ฝากฝังสังขารอยู่ในวัดโค้วอิงยี่ ภูเขาอึ้งซัว!
ดังนั้น วัดโบราณอันสงบร่มรื่น กลับกลายเป็นแดนประหัตประหารของชาวบู๊ลิ้ม
ต่างชิงกันเข้าวัดไปก่อน
พวกมันไม่เพียงต้องการกระบี่พิศวาส ทั้งยังคิดร่ำเรียนวิชาฝีมือลึกล้ำสุดหยั่งคาดของเทพธิดากำสรวล
ตามคำร่ำลือ วิชาฝีมือเหล่านั้นคัดลอกอยู่บนตำราเล็กๆเล่มหนึ่ง ผนวกคู่กับกระบี่พิศวาสเล่มนั้น
ฝังอยู่ข้างซากศพเทพธิดากำสรวล
สุดท้าย ผู้ที่แก่งแย่งพ่ายแพ้เสียชีวิต ผู้ได้ชัยก็ไม่ได้รับผลแห่งชัยชนะ
ผู้ที่ขึ้นสู่ยอดเขางังฮ้วยฮงไม่มีผู้ใดมีชีวิตรอดกลับมาแม้สักคนเดียว
เทพธิดากำสรวลเสียชีวิตจริงๆ ? หรือเพียงเป็นกลลวงประการหนึ่ง ?
มาตรว่ามีคนตั้งข้อสังเกตเช่นนี้ แต่ไม่มีผู้ใดค้นหาคำตอบที่แท้จริงได้
เพียงแต่เทพธิดากำสรวลไม่ได้ปรากฏร่องรอยขึ้นอีก คล้ายเป็นเครื่องยืนยันข่าวการตายของนาง
ผู้คนที่ขึ้นเขางังฮ้วยฮง ยิ่งมายิ่งลดน้อยลง จวบจนไม่มีผู้ใดเหยียบย่างขึ้นไปอีก
ไม่ว่าอย่างไร ชีวิตผู้คนเป็นสิ่งล้ำค่า
วัดโค้วอิงยี่คล้ายกลับคืนสู่ความสงบชั่วคราว
ยามสนธยาในฤดูใบไม้ร่วง บุรุษหนุ่มผู้หนึ่งเร่งรุดขึ้นเขางังฮ้วยฮง
มันหน้าซูบซีดอิดโรย รูปกายผ่ายผอม แต่มีพื้นฐานพลังฝีมืออยู่บ้าง ในลมภูเขาเกรี้ยวกราดรุนแรง
ยังมีฝีเท้าหนักแน่นมั่นคง รุดหน้าด้วยความเข้มแข็งเด็ดเดี่ยว จวบจนขึ้นถึงยอดเขา
ใต้แสงสีของอาทิตย์สนธยา กำแพงสีขาวของวัดโค้วอิงยี่ถูกฉาบไล้เป็นสีแดงฉานราวโลหิต
บุรุษหนุ่มยืนลังเลอยู่หน้าประตูชั่วขณะ เหลียวดูหลุมฝังศพเกลื่อนกลาดในดงสน
ใบหน้าซูบซีดปรากฏรอยยิ้มเต็มฝืนขึ้น
ประตูวัดปิดสนิท ภายในบังเกิดเสียงท่องสวดมนต์อย่างแผ่วเบา บุรุษหนุ่มลังเลชั่วขณะ
ค่อยยกมือเคาะประตูหลายครา
เสียงท่องสวดมนต์ชะงักขาดหาย จากนั้นบังเกิดเสียงทุ้มหนักเสียงหนึ่งดังว่า
"เป็นท่านใด"
บุรุษหนุ่มตอบว่า
"ผู้เยาว์ลี้จี่ตง (ปณิธานมุ่งมั่น) แห่งเมืองลกเอี้ยง เดินทางมาเคารพศพเทพธิดากำสรวล
พร้อมทั้งขอหยิบยืมกระบี่พิศวาสสักครา"
|