|
เนื้อเรื่องย่อ : ขอขอบคุณท่านแหะแหะ
ที่เอื้อเฟื้อเนื้อหาบทที่ 1 มาให้
ที่มา: สร้างสรรค์บุ๊คส์ 2545
บทที่ 1
พี่น้องสองอัจฉริยะ
เที่ยงตรง อาทิตย์แผดแสงแรงกล้าอยู่เหนือศีรษะ
ยอดเขาโดดเดี่ยวที่พิเศษพิสดารลูกนั้น ยืนตระหง่านท้าทายเทือกทิวเขารอบข้างอย่างองอาจ
กล่าวแล้วก็ประหลาดยิ่ง ยอดเขาลูกนี้ได้ตัดขาดจากขุนเขารอบๆข้างโดยไม่มีลูกใดจะติดต่อถึงมัน
และยิ่งไม่อาจที่จะเสาะหาทางจากขุนเขาทางรอบข้างเพื่อจะเดินให้ถึงยอดเขาโดดเดี่ยวลูกนี้ด้วย
มีแต่ทางด้านซ้ายมือเท่านั้น ยอดเขาลูกหนึ่งซึ่งมีสนขึ้นจนหนาแน่นเขียวชอุ่ม
มีระยะห่างจากยอดเขาโดดเดี่ยวนี้อยู่เพียงยี่สิบกว่าวา แต่แม้ห่างเพียงยี่สิบกว่าวาทางช่องที่คั่นเขาทั้งสองนั้น
เป็นหุบเหวที่ลึกล้ำหลายพันวา ไม่มีทางจะติดต่อไปมากันได้ เบื้องล่างของหุบเหวยังมีเมฆหมอกบางๆลอยปกคลุมไว้ชั่วนาตาปีอีกด้วย
บนปลายสูงสุดของยอดเขาโดดเดี่ยวลูกนั้น เวลานี้มีคนยืนประจันกันอยู่สองคน
ผู้อยู่เบื้องซ้ายเป็นนักพรตชราคิ้วเคราผมเผ้าขาวโพลง ใบหน้าแดงเปล่งปลั่งเน้นกับหนวดเคราที่ขาวราวปุยฝ้าย
ยิ่งดูยิ่งคล้ายรูปเซียนผู้วิเศษในภาพวาด ส่วนผู้อยู่เบื้องขวา เป็นหลวงจีนรูปกายสูงใหญ่อ้วนพี
อายุน่ากลัวต้องสูงวัยกว่าเจ็ดสิบพรรษาเป็นแน่แท้
หลวงจีนชราสะบัดแขนจีวรที่บางเบาจนพลิ้วไสว น้ำเสียงที่กล่าวก้องกังวานดุจระฆังโบราณ
ผนึกแน่นกลางอากาศอยู่เป็นเวลาเนิ่นนานจึงจางหาย
"จิวเต้าเจี้ยง นับว่าท่านเก่งกาจที่หาทำเลอันเหมาะสมเยี่ยงนี้ได้ เพียงแต่ที่นี้แม้เป็นจุดอับ
ร่องธรรมชาติสายนั้นตัดขาดจากโลกภายนอกโดยสิ้นเชิง แต่กลับมิได้สร้างความยุ่งยากกับเราหลวงจีนเฒ่าจนสิ้นปัญญา"
นักพรตผมขาวผงกศีรษะกล่าวว่า
"ไต้ซือกล่าวรุนแรงไปแล้ว อาตมาไหนเลยจะกล้าใช้หุบเหวที่กว้างเพียงยี่สิบกว่าวามาสอบฝีมือไต้ซือได้
วิชาตัวเบาของปวยเทียนยูไล (พระยูไลเหินฟ้า) โดดเด่นเป็นเอกในแผ่นดิน คิดดู
อาตมาไหนเลยจะกล้าอวดโอ่จนไม่เจียมตัวปานนั้น?"
หลวงจีนชราหัวร่อเฮอะฮะ แล้วกล่าวเสียงก้องกังวานไปอีกครั้ง
"เพียงแต่ว่า จิวเต้าเจี้ยงเลือกสถานที่ได้เยี่ยมยอดเหลือล้ำ ผู้กล้าหาญอันกระเดื่องเลื่องนามทั่วบู๊ลิ้มทั้งแผ่นดิน
ปรารถนาใคร่ได้ทราบผลของการประลองฝีมือระหว่างเต้าเจี้ยงกับอาตมา มีเป็นจำนวนไม่ต่ำกว่าพันๆหมื่นๆ
ในครานี้น่ากลัวมีแต่ต้องไปจับเจ่าเฝ้ารอตามยอดเขาเตี้ยทางรอบข้างเท่านั้น
คิดดูเมื่อกาลครั้งก่อน ทุกคราที่เจ้าสำนักบู๊ตึงคุนลุ้นต่อสู้กัน ต้องเป็นเรื่องสะท้านบู๊ลิ้มทั้งแผ่นดินจนหวั่นไหว
แต่พวกเราในคราวนี้ เพียงเชื้อเชิญสายลมกับเดือนตะวันเป็นสักขี เต้าเจี้ยงมิรู้สึกเงียบเหงาเกินไปบ้าง?"
นักพรตชราลูบเคราพลางกล่าวอย่างยิ้มแย้มแจ่มใส
"หลังจากเมื่อสามสิบปีก่อนที่ไต้ซือไปมีโทสะบนคุนลุ้นเหนือ ขว้างเชาจื้อเม้งที่ถูกยกเป็นอัจฉริยะพิกลของบู๊ลิ้มลงไปตายแล้ว
นามของปวยเทียนยูไลก็คล้ายเป็นอาทิตย์ที่สถิตอยู่กลางท้องฟ้า ตามความเห็นอันโง่เขลาของอาตมา
น่ากลัวแม้จะให้คุนลุ้นไต้เฮี้ยบ (วีรบุรุษคุนลุ้น) ซือแป๋ท่านฟื้นคืนชีพ
น่ากลัวก็ยากยิ่งจะมีพลังฝีมือเทียบเท่ากับไต้ซือในปัจจุบัน ลองคิดดู อาตมาไหนเลยจะกล้าไปพ่ายแพ้แก่ฝีมือไต้ซือต่อหน้าผู้กล้าหาญทั่วทั้งแผ่นดิน
ดังนั้น จึงจำต้องเลือกเฟ้นสถานที่เร้นลับนี้ด้วยความจนใจ"
หลวงจีนชราเลิกคิ้วยาวขึ้น กล่าวเสียงกังวาน
"จิวเต้าเจี้ยงไยต้องถ่อมตัวให้เกินไป แสร้งมากล่าววาจาไม่ตรงกับใจจริง
สำนักบู๊ตึงหลังจากอยู่ภายใต้การดูแลของจิวเต้าเจี้ยงท่าน รุ่งเรืองจำเริญขึ้นทุกวี่วัน
จนมีอิทธิพลอำนาจกระเดื่องบู๊ลิ้ม อย่าว่าแต่เป็นผู้กล้าหาญทั่วแผ่นดินเลย
น่ากลัวแม้ตัวเต้าเจี้ยงเองก็ยังต้องนึกอยู่เสมอมาว่า ตัวเองเป็นยอดฝีมืออันดับหนึ่งของพิภพจบแดนยุคนี้แล้ว?"
นักพรตชราหัวร่อพลางกล่าวว่า
"วาจาไต้ซือนับว่ากล่าวเข้าไปจนถึงก้นบึ้งหัวใจของอาตมาจริงๆ แต่ต้องตำหนิฟ้าที่ได้ให้กำเนิดข้าพเจ้าจิวเจี๊ยะเล้งมาแล้ว
ไฉนจึงให้ปวยเทียนยูไลท่านเกิดตามมา? มีปวยเทียนยูไลท่านอยู่ อาตมากล้าบังอาจยกตนเป็นคนที่หนึ่งในแผ่นดินหรือ?"
คารมของหลวงจีนชราแหลมคมดุจเกาทัณฑ์ ได้สวนคำขึ้นในทันที
"เช่นนี้ว่า จิวเต้าเจี้ยงหากแม้นได้ชัยอาตมาไปในครานี้ ก็จะยกตัวเองเป็นที่หนึ่งในแผ่นดินแล้ว?"
นักพรตชราคาดไม่ถึงว่า หลวงจีนชราจะกล่าวดังนี้ แต่ก็ส่งเสียงกังวานสวนคำขึ้นทันที
"ไต้ซือมิจำเป็นต้องเอาชัยในด้านเล่ห์ลิ้นคารม มิพักกล่าวถึงท่านที่เป็นปวยเทียนยูไลแห่งคุนลุ้น
ปุ้กซี้ฮ่อเสียง (หลวงจีนไม่ตาย) แห่งเสียวลิ้ม เปียเสาะเล่านั้ง (เฒ่าหิมะน้ำแข็ง)
แห่งเทียนซัว แต่ละคนยิ่งมีอายุยืนยาวยิ่งเข้มแข็งยิ่งคึกคัก แล้วอาตมาจิวเจี๊ยะเล้งจะสามารถปีนป่ายขึ้นไปถึง?
กล่าวต่อไปก็ยังมี
"
กล่าวถึงตอนนี้พลันชะงักคำไว้ ใบหน้าปรากฏแววหวั่นไหวขึ้นมา หลวงจีนชราจึงกล่าวสืบต่อให้ว่า
"อาตมาทราบว่า ท่านคิดจะบ่งการบอกถึงผู้ใด
"
นักพรตชราผงกศีรษะเล็กน้อย กล่าวเสียงแผ่วเบาว่า
"คนผู้นั้น ระหว่างนี้คล้ายดั่งบรรลุถึงขั้นงื่อเกี่ยมปวยซิง (คุมกระบี่โผบิน)
"
หลวงจีนชราไม่อาจข่มกลั้นต่อไปได้แล้ว ถลึงตาตวาดไปว่า
"ท่านหมายถึงตั้งบ้อกง?"
"ใช่แล้ว ตั้งบ้อกงจริงๆ!"
กล่าวถึงตอนนี้กลับทอดถอนใจยาวเสียก่อน จึงเอ่ยสืบไป
"ตั้งบ้อกงในเวลาสามเดือนนี้ ฟาดยอดฝีมือบู๊ลิ้มจนตายไปถึงสิบกว่าคน
ใต้คมกระบี่มิเคยไว้ชีวิตผู้ใด ความอำมหิตโหดเหี้ยมของจิตใจ เป็นที่หวั่นหวาดพรั่นพรึงของผู้คนอย่างใหญ่หลวงแล้ว
ท่านดูความสูงส่งในพลังฝีมือของคนผู้นี้ นับว่าบรรลุถึงขั้นแตกตื่นสะท้านต่อชาวโลกได้
วันนี้
การต่อสู้ของวันนี้ หากแม้นอาตมาพ่ายแพ้ วันหน้ายังหวังให้ไต้ซือพิทักษ์คุณธรรมอันดีงามของบู๊ลิ้ม
สนใจสังเกตพฤติการณ์ของตี้ซัวะ (มารพสุธา) ตั้งบ้อกง
"
********************* |