ผาโลหิต

เพลินจิตต์ 2508
ผ่านฟ้าพานิช 2516 (เล็ก)
ผ่านฟ้าพานิช 2516 (ใหญ่)
ศิลปาบรรณาคาร 2523
บรรณาคาร 2544
สร้างสรรค์ 2547

ผู้แต่ง : เยียกเม้ง ผู้แปล : ว. ณ เมืองลุง
จำนวนเล่มจบ : 25 เล่มจบ (เล่มเล็ก) - เพลินจิตต์ - อ้างอิงพิมพ์ปี พ.ศ. 2508
จำนวนเล่มจบ : 25 เล่มจบ (เล่มเล็ก) - ผ่านฟ้าพานิช - อ้างอิงพิมพ์ปี พ.ศ. 2516
จำนวนเล่มจบ : 6 เล่มจบ - ผ่านฟ้าพานิช - อ้างอิงพิมพ์ปี พ.ศ.
จำนวนเล่มจบ : 6 เล่มจบ - ศิลปาบรรณาคาร - อ้างอิงพิมพ์ปี พ.ศ. 2523
จำนวนเล่มจบ : 3 เล่มจบ - บรรณาคาร - กระดาษปรู๊ฟ - ปกแข็ง - อ้างอิงพิมพ์ปี พ.ศ. 2544
จำนวนเล่มจบ : 2 เล่มจบ - สร้างสรรค์ - อ้างอิงพิมพ์ปี พ.ศ. 2547

ข้อมูลเพิ่มเติม : เรื่องจีนชนะเลิศเงินรางวัล 120,000 เหรียญไต้หวัน

พิมพ์ตรั้งแรกโดย สนพ.เพลินจิตต์ ปี 2508 เล่มจบ คือเล่ม 25 โดยหน้าปกพิมพ์ว่า เล่ม 25-26

นื้อเรื่องย่อ :

นำเรื่อง

ลมรุนแรงโหมกรรโชก ฝนกระหน่ำมาดั่งฟ้ารั่ว
มันเป็นคราสุธากำสรวล ฟ้าร่ำไห้
ขบวนอันพิกลแถวยาวเหยียด เดินเรียงรายไปตามทางน้อยอันคดเคี้ยวของเชิงผา มุ่งหน้าไปสู่ลานเตี้ยฮื้อกี
เตี้ยฮื้อกี….ลานซึ่งกว้างประมาณไร่เศษ เบื้องล่างคือลำน้ำอันเชี่ยวกรากรุนแรง
ขบวนคนทั้งปวงนี้ นับว่าสะดุดตาเป็นที่ยิ่ง ที่ว่าพิกลนั้นไม่เกินเลย บุรุษหนุ่มในอาภรณ์รัดกุมสี่คนแบกโลงมหึมาลงรักสีแดงฉานเดินนำอยู่เบื้องหน้าสุด ต่อมาเป็นดรุณีน้อยในเครื่องแต่งกายหญิงรับใช้ ประคองสตรีงามปานเทพธิดาอายุประมาณยี่สิบผู้หนึ่ง เดินตามติดหลังโลงในระยะกระชั้นชิด สตรีนางนี้หน้าซีดสลดมุ่นมวยผมยุ่งเหยิงมิเรียบร้อย หน้านิ่วอย่างเจ็บปวดรวดร้าว ฝีเท้าก็โวเซมิมั่นคง ในมือยังโอบอุ้มหีบสีดำอยู่ใบหนึ่ง
ด้านหลังต่อไป เป็นชนชาวบู๊ลิ้มจำนวนหลายสิบมีทั้งบุรุษสตรี อายุเยาว์และเฒ่าชราอยู่ครบถ้วน แต่ละคนต่างมีหน้าตาอันกระเหี้ยนกระหือ เต็มไปด้วยความโลภโมโทสัน
บนลานยามนี้มีผู้รอคอยอยู่แล้ว ด้วยจำนวนคนที่มิต่ำกว่าสองพัน !
เมื่อขึ้นลานกว้างได้ บุรุษฉกรรจ์สี่คนจึงได้วางโลงไม้ไว้ยังข้างหลุมที่ขุดเอาไว้ก่อน จากนั้นจึงยืนระวังตรงอยู่ข้างโลงอย่างสำรวม
สตรีที่โอบหีบสีดำ มีประกายตาอันอาฆาตมาดร้ายจนแวววาวกวาดมองดูเหล่าผู้คนที่ห้อมล้อมในบริเวณแล้ว จึงหันไปกล่าวกับบุรุษฉกรรจ์ทั้งสี่คนว่า
"เริ่มพิธีฝัง"
"ช้าก่อน"
พร้อมกับเสียงตวาดห้าม ที่สะเทือนเลือนลั่นปานแก้วหูจะแตกได้ดังขึ้น ชายชราในเสื้อแพรยาวเป็นมันระยับ ได้ก้าวฝ่าฝูงชนเข้ามาอย่างรวดเร็ว ทุกผู้คนภายในบริเวณต่างบังเกิดสีหน้าอันตื่นตระหนกตกใจ จับสายตารวมไปยังบนร่างชายชราเสื้อแพรเป็นตาเดียวโดยสิ้นเชิง
สตรีโอบหีบสีดำตวาดเสียงเกรี้ยวกราดว่า
"บู๊ลิ้มเจ็กกุน สามีผู้ล่วงลับถูกลอบทำร้ายอย่างอุบาทว์ชาติชั่ว ท่านยังมิยินยอมจะละเว้นซากศพของเขาอีกหรือ ?"
บู๊ลิ้มเจ็กกุน (บุรุษเดียวที่สูงส่งของบู๊ลิ้ม) แสยะยิ้มอย่างมีเลศนัยอันชั่วร้าย แล้วกล่าวว่า
"กำฮูหยิน บรรดาสหายชาวบู๊ลิ้มที่รวมตัวมาในวันนี้ แทบจะกล่าวได้ว่า เป็นผู้มีข้ออาฆาตบาดหมางกับสามีท่านเมื่อยามยังมีชีวิตอยู่ หากแม้นฮูหยินมิยินยอมให้เปิดโลงทำลายซากศพของสามีแล้ว…."
"เป็นอย่างไร ?"
"โปรดมอบของสิ่งนั้นให้แก่เล่าฮู หรือบอกถึงที่ซุกซ่อน…เล่าฮูรับรองว่าไม่มีผู้ใดกล้า…"
สตรีอุ้มกล่องสีดำ ร่างส่ายไปมาสองสามครั้งแล้วตวาดเสียงเกรี้ยวกราดว่า
"กระทำมิได้"
"ฮูหยินอย่าลืมไปว่า สามีของท่านได้ฝึกปรือจนกระทั่งบรรลุจุดอยู่ยงคงกระพัน การตายของมัน…เฮอะ เฮอะ น่ากลัวจะมีเลศ…."
ในกลุ่มผู้คนจำนวนมากมาย บังเกิดความวุ่นวายขึ้นทันที แต่ละคนต่างมีสีหน้าที่แปรเปลี่ยนจนผิดแปลกไปกว่าเดิมโดยสิ้นเชิง
"บู๊ลิ้มเจ็กกุน ท่านมากล่าววาจาเช่นนี้ด้วยจุดประสงค์อันใด ?"
"เพียงสะกิดฮูหยินให้รู้ตัวขึ้นเท่านั้น"
"ความคิดอันเลวทรามต่ำช้าที่สุดจะอุบาทว์บัดซบของท่านหลอกหลวงมิได้แม้แต่ทารกอมมือ !"
"ฮูหยิน ใคร่ครวญถึงผลสุดท้ายที่จะเกิดขึ้นเองเถิด"
"เฮอะ ผลสุดท้าย ? ผู้ใดกล้าแตะต้องโลง…"
"หากแม้นเช่นนั้น อภัยที่เล่าฮูมิกล้าจะฝ่าฝืนต่อโทสะของผู้คนจำนวนมาก"
กล่าวแล้วจึงถอยกายออกไป
ในช่วงเวลาที่บู๊ลิ้มเจ็กกุนถอยกายไปนั้น เงาร่างมากมายหลายสาย ได้เคลื่อนกายเข้าใกล้กับโลงไม้นี้อย่างประสงค์ร้าย
สตรีอุ้มหีบสีดำกรีดร้องอย่างเจ็บช้ำเสียงแหลมเล็กแล้วตวัดฝ่ามือฟาดเข้าใส่ยังร่างผู้ที่เข้าใกล้โลงไม้ การฟาดในครานี้ มีอานุภาพรุนแรงประหนึ่งอสนีบาตที่ฟาดใส่ พลังอันคลุ้มคลั่งปานมรสุมได้โถมทะลักออกไปพร้อมกับเสียงแผดร้องอันเจ็บปวดโหยหวนหลายต่อหลายครั้ง ในกลุ่มผู้คนจำนวนมาก มีอยู่สามคนถูกกระแทกจนกระเด็นละลิ่ว ร่วงลงไปภายในลำน้ำอันเชี่ยวกราก
และสตรีอุ้มหีบดำ เมื่อฟาดฝ่ามือออกไปคราหนึ่งแล้ว สีหน้าอันผุดผาดสะคราญ พลันบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวด เซถอยกายไปหลายต่อหลายก้าว หญิงรับใช้สองคนที่ข้างกาย รีบถลาเข้าไปประคองไว้ โลหิตใสๆได้ไหลลงจากหน้าขา จนเนืองนองกระโปรงและพื้นที่ยืนอยู่
เหตุการณ์ดั่งนี้ ทำให้ผู้อยู่ในลานต่างพากันงงงันอย่างคาดคิดไม่ถึง
ในทันใดนั้น เสียงตวาดได้ดังขึ้นกึกก้องจนสับสนวุ่นวาย เหล่าผู้อยู่ในบริเวณ ต่างฮือกันเข้าหาโลงไม้สีแดงอย่างรวดเร็วรุนแรง บุรุษฉกรรจ์สี่คนที่หามโลงมา ต่างพากันคำรามขึ้นด้วยความแค้นเคือง ลงมือหักโหมกันอย่างตรงๆมิหวาดหวั่น
การต่อสู้อันดุเดือดนองเลือด ที่น่าหวาดหวั่นสะท้านขวัญ ตึงได้เริ่มขึ้นในลักษณะนี้
สตรีรูปงานเลิกตาจนฉีกขาดออกจากกัน อ้าปากกระอักโลหิตเป็นลำยาว จนร่างอ้อนแอ้นส่ายโงนเงนแทบจะล้มลง
การต่อสู้ที่ดุเดือดในครานี้ เสร็จสิ้นกันรวดเร็วเหลือเกิน เพียงชั่วครู่เดียว บนพื้นก็มีซากศพเพิ่มขึ้นอีกสิบกว่าซาก บุรุษหนุ่มฉกรรจ์ทั้งสี่คนก็อยู่ในจำนวนสิบกว่าซากนั้นด้วย
โลงถูกงัดออกแล้ว บุรุษรูปงามสง่าดั่งราวสลักจากหยกเนื้อดีในอาภรณ์สีเขียวเข้ม นอนสงบอยู่ภายในโลง พลังฝ่ามือพลังนิ้วต่างจู๋โจมเข้าใส่ซากศพในโลงอย่างอำมหิตโหดเหี้ยม
โลงไม้ได้กระจายไปเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ซากศพถูกพลังอันหนักหน่วง กระแทกจนพลิกไปพลิกมาอย่างไม่หยุดยั้ง….
"ท่านทั้งหลาย กระทำพอควรเถิด"
วาจานี้ได้ดังออกจากปากของชายชราในอาภรณ์แพร ที่มีนามบู๊ลิ้มเจ็กกุน เสียงมาตรแม้นมิดังกึกก้องกังวาน แต่ก็สะเทือนเลือนลั่นโสตประสาททุกคนอย่างรุนแรง
คลื่นมนุษย์ได้พากันล่าถอยออกไป พร้อมกับเสียงตวาดห้ามในครานี้
สตรีรูปงานถูกหญิงรับใช้ประคองไว้ทั้งซ้ายขวา ขอบตาที่ฉีกขาดนั้นมีโลหิตไหลซึมออกมา หน้าตาบิดเบี้ยวด้วยความเดือดดาลคลั่งแค้น ทำให้ผู้ได้พบเห็นต้องรู้สึกหนาวเย็นจนจับใจ
บู๊ลิ้มเจ็กกุนมีรอยยิ้มอันโหดเหี้ยมชั่วร้าย ยกมือขึ้นโบกแล้ว พลันมีชายชราอาภรณ์ดำสี่คน ก้าวยาวๆมายังหน้าซากศพ เมื่อก้มลงตรวจตรากันอย่างละเอียดถี่ถ้วนอยู่ครู่ใหญ่แล้ว จึงพากันถอยกายกลับไป หนึ่งในจำนวนนั้นน้อมกายลงรายงานว่า
"ขอเรียนเซี่ยกุน (ผู้วิเศษ) มิพบพานเลย"
สตรีรูปงามพลันส่งเสียงหัวร่อดุจดั่งคลุ้มคลั่งฟั่นเฟือน เป็นเสียงหัวร่อที่โหยหวนสะท้าน ที่ทำให้ผู้ได้ยินต้องขนลุกเกรียว ท่ามกลางเสียงหัวร่อ นางเดินฝ่าเข้าไปในคลื่นมนุษย์ เหล่าผู้คนชนชาวนักเลงจำนวนมากมาย ต่างพากันแยกเป็นช่องเพื่อหลีกทางให้อย่างลืมตัวสตรีรูปงามเดินไป เดินไปจนกระทั่งถึงยังริมลานที่หมิ่นเหม่
หญิงรับใช้ทั้งสองสีหน้าสลดรันทด ติดตามประคองกันอย่างมิยอมห่างกาย
บู๊ลิ้มเจ็กกุนมีสีหน้าแปรเปลี่ยนไปเล็กน้อย รีบถีบร่างพุ่งปราดเข้าหา การโถมกายในครานี้ กล่าวได้ว่ารวดเร็วยิ่งกว่าประกายไฟ…
พร้อมกันในเวลานั้น เงาร่างอีกมากมายหลายสิบคน พากันโถมไปอย่างเร่งร้อน….
ในพริบตาที่บู๊ลิ้มเจ็กกุน พลิ้วกายโถมเข้าไปนั้นสตรีรูปงามได้เหวี่ยงหีบดำในมือลงไปทางด้านล่าง
บู๊ลิ้มเจ็กกุนตะปบมือคว้าเข้าใส่อากาศ เฉียดพลาดไปอย่างหวุดหวิด ทำให้หีบดำร่วงลงไปภายในกระแสน้ำอันไหลเชี่ยว
สตรีรูปงามพลันหันขวับกลับมา ฝ่ามือทั้งสองผลักและกระชากไปสองครั้ง เสียงกรัดร้องอย่างตื่นตระหนกก็ได้ดังขึ้น เมื่อหญิงรับใช้ทั้งสองถูกผลักร่วงลงไปในลำน้ำเบื้องล่าง
จากนั้น จึงหันกลับมากวาดตามองดูผู้มีฝีมือทั้งมวล ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันแล้วกล่าวว่า
"ทุกท่านพึงพอใจได้แล้วกระมัง ?"
กล่าวจบลากเท้าที่หนักหน่วงโซซัดโซเซ วกกลับมาในลานกว้างอีกครั้ง โอบอุ้มซากศพของสามีวางในหลุมที่เตรียมอยู่ กรีดร้องขึ้นอย่างเจ็บช้ำน้ำใจ แล้วตวัดฝ่ามือฟาดเข้าใส่หน้าผากของตนเองทันที
"ขัดขวางนางไว้"
เสียงตะโกนก้องขึ้นด้วยความตื่นตกใจ หลายต่อหลายคนได้ดังจนสับสน….
แต่เสียงดังโครมบังเกิดขึ้น พร้อมกับโลหิตสาดกระจายออกไป สตรีงามฟาดสมองของนางจนแหลกละเอียด ซากศพร่วงลงสู่หลุม คู่เเคียงกับสามีของนางดุจดั่งหวังไว้
ดังนั้นเอง…
บนลานเตี้ยฮื้อกี จึงมีฮวงซุ้ยอันมหึมาสร้างขึ้น ป้ายศิลาแผ่นใหญ่หน้าฮวงซุ้ยสลักเอาไว้ว่า
ที่ฝังศพเง็กมิ่นบ้อเต็ก (หน้าหยกที่ไร้ผู้ต่อต้านได้) กำโจ๊วนี้และภรรยา
ดังนั้นเอง……

อ้างอิง : ผาโลหิต เล่ม 1 แปลโดย ว. ณ เมืองลุง สนพ.ผ่านฟ้าพานิช 2516


      Post Request

 

 

หอสะสมตำรา
หอสะสมตำรา (ว. ณ เมืองลุง)