บ้อซังเกี่ยม

เพลินจิตต์ 2509
ประพันธ์สาส์น 2520
โชคชัยเทเวศน์ 2523
สร้างสรรค์บุ๊ค 2546
สร้างสรรค์บุ๊ค 2554

ผู้แต่ง : ฉิ่นอั๊ง ผู้แปล : ว. ณ เมืองลุง
จำนวนเล่มจบ : 37 เล่มจบ (เล่มเล็ก) - เพลินจิตต์ - อ้างอิงพิมพ์ปี พ.ศ. 2509
จำนวนเล่มจบ : 7 เล่มจบ - ประพันธ์สาส์น - อ้างอิงพิมพ์ปี พ.ศ. 2520
จำนวนเล่มจบ : 8 เล่มจบ - โชคชัยเทเวศน์ - อ้างอิงพิมพ์ปี พ.ศ. 2523
จำนวนเล่มจบ : 3 เล่มจบ - สร้างสรรค์บุ๊ค - อ้างอิงพิมพ์ปี พ.ศ. 2546

จำนวนเล่มจบ : 3 เล่มจบ - สร้างสรรค์บุ๊ค - อ้างอิงพิมพ์ปี พ.ศ. 2554 (พร้อมกล่อง)
ข้อมูลเพิ่มเติม :

เนื้อเรื่องย่อ : ขอขอบคุณ ท่านแหะแหะ ที่เอื้อเฟื้อและพิมพ์ข้อมูลส่งมาให้ขอรับ

บ้อซังเกี่ยม
ไม่ทราบชื่อผู้แต่ง แปลและเรียบเรียงโดย ว ณ เมืองลุง
ที่มา : สำนักพิมพ์ประพันธ์สาส์น พ.ศ. 2520

บทนำ
ทารกอัจฉริยะ

ยามเมื่อสายลมฤดูชุนเทียน (ฤดูใบไม้ผลิ) ลูบไล้หมู่ไม้ใบหญ้าอันเขียวขจีของทั่วพื้นปัฐพีนั้น …
ฮั่งจิว นครโบราณอันมีความเจริญรุ่งเรืองสูงสุดของประเทศ ได้ย่างเข้าสู่เทศกาลงานต่างๆ อันครึกครื้นอีกแล้ว
เหล่าพุทธมามกะที่ไหลหลั่งจากสารทิศต่างๆ เหล่าผู้คงแก่เรียนที่มาชมทิวทัศน์อันขึ้นชื่อลือชาทั่วประเทศของฮั่งจิว เหล่าลูกเศรษฐีมีทรัพย์ที่มาชมสตรีงามนามเลื่องลือระบือทั่วแผ่นดินของฮั่งจิว พากันแออัดยัดเยียดอยู่ในเมืองนี้ จนคับคั่งจอแจเบียดเสียดยัดเยียดอย่างยิ่งยวด
แม้กระทั่งบ่วยฮวยปี (ลานดอกเหมย) อันมิใช่ปูชนียสถานสำคัญของเมือง ก็รู้สึกกระปรี้กระเปร่ามีชีวิตชีวาขึ้นในฤดูกาลนี้
บ่วยฮวยปี สถานชุมนุมชนทุกชั้นจากทั่วทุกทิศทาง ตามถนนหนทางมีตึกรามหอห้องอยู่เรียงราย อาคารร้านค้าและแผงขายเร่ ทุกๆสิ่ง ทุกๆประการของมหรสพที่สร้างความรื่นรมย์ต่อผู้คนครบถ้วนตามประดามี
ถนสายตะวันออกของลานแห่งนี้ มีร้านน้ำชาปี่เซี่ยเล้า ซึ่งจัดสร้างอย่างสะอาดสวยงามทรงรสนิยมสูงส่ง เหล่าผู้คงแก่เรียน นักศึกษามีความรู้ พากันมาพักผ่อนหย่อนอารมณ์ในสถานที่นี้อย่างคับคั่ง
วันนี้ ตั้งแต่เริ่มเวลาสาย บรรดาผู้คนก็พากันมาแออัดอยู่ในร้านน้ำชานี้จนยัดเยียดแน่นขนัด แต่ไม่มีผู้ใดส่งเสียงอึกทึกขึ้นเลย ทุกคนต่างใจจดจ่ออยู่บนกระดานหมากรุกอันมหึมาที่ตั้งอยู่ ดูหมากรุกซึ่งกำลังพันตูกันอย่างดุเดือด ฟังคำบรรยายของชายชราผมหงอกขาว ที่เอ่ยอธิบายถึงความเก่งกาจสามารถของแต่ละตา ที่ทั้งสองฝ่ายกำลังห้ำหั่นกันในเชิงหมากรุก
ที่แท้ชายชราผู้นี้คือ เจ้าของร้านน้ำชาปี่เซี่ยเล้านั่นเอง เนื่องจากมีหัวการค้าอันยอดเยี่ยม ต้องการดึงดูดให้มีผู้อุดหนุนร้านคับคั่งยิ่งขึ้น จึงได้ไปน้อมเชิญมือหมากรุกอันดับหนึ่งของประเทศ เฮ่งเทียวเม้ง จากปักกิ่งนครหลวงของประเทศ และทารกอัจฉริยะในเชิงหมากรุกที่เพิ่งปรากฏขึ้นในบ่วยฮวยปี มาทำการอบรมเชิงหมากรุก
แม้จะตั้งนามไว้ว่าเป็นการอบรมแนะนำ แต่ทว่าบรรดาผู้คนพื้นเพของบ่วยฮวยปี ต่างมุ่งมั่นปรารถนาอย่างยิ่งยวด ที่ต้องการให้ซิ่งท้ง (ทารกอัจฉริยะ) ของพวกตนสามารถโค่นมือหมากรุกอันดับหนึ่งของประเทศลงไปให้จงได้
สภาพการต่อสู้ดำเนินไปอย่างดุเดือดพลิกแพลง…
เวลา ค่ำมืดลงแล้ว
ตะเกียง ถูกจุดขึ้นจนสว่างไสวเจิดจ้า
หมากรุกได้พันตูกันจนเข้าขั้นสุดท้าย แต่ผลแพ้ชนะยังมิปรากฏขึ้น
จิตใจของแต่ละคนต่างเต้นระทึก ด้วยควมตื่นเต้นเป็นที่สุด ดวงตาแต่ละคู่เบิกจนกลมโต รอคอยเวลาสุดท้ายที่จะกรายมาด้วยจิตใจอันร้อนรุ่มกระวนกระวาย
ในที่สุด …
นักศึกษาคนหนึ่ง ได้เดินลงจากบันไดของชั้นบน ยืนประกาศที่ปากบันไดด้วยใบหน้าอันยิ้มแย้มแจ่มใส เพราะความปลาบปลื้มยินดีว่า
"ซิ่งท้ง (ทารกอัจฉริยะ) อึ้งป๊วก ถือหมากดำมีชัยหนึ่งเบี้ย (หมากรุกที่นิยมเล่นในประเทศ จีนชนิดนี้ผิดกับหมากรุกจีนที่เห็นเล่นกันในประเทศไทยมากมาย เป็นหมากรุกสีดำและขาว ฝ่ายละหนึ่งร้อยห้าสิบเม็ด เดินบนกระดานที่มีตาขวางและตรง แถวละสิบเก้า รวมสามร้อยหกสิบเอ็ดตา ทุกตามีนามโดยเฉพาะ การเดินต้องใส่เบี้ยทั้งร้อยห้าสิบลงไปทีละเม็ดจนกระทั่งหมด ทั้งสองฝ่ายกินหมากของคู่ต่อสู้ที่เดินเข้าหาตาของตน เหมือนอย่างหมากฮอร์ส เมื่อลงเบี้ยหมดทั้งร้อยห้าสิบเม็ดแล้ว จึงมานับเบี้ยดูว่า ฝ่ายใดเป็นฝ่ายได้กินมากกว่า จึงถือว่า ฝ่ายนั้นมีชัย ผู้ถือหมากขาวต้องเป็นมือสูงกว่า หรือผู้มีอาวุโสกว่า หรือฝ่ายตรงข้ามถ่อมตัวยอมยกย่องให้ -- ผู้เรียบเรียง)"
ทั่วทั้งชั้นล่างของร้านน้ำชา เสียงปรบมือโห่ร้องได้กึกก้องจนแทบถล่มทลาย มีผู้คนจำนวนไม่น้อยที่พากันกระโดดโลดเต้น เหล่าอายุเยาว์โถมเข้ากอดรัดกันอย่างปีติยินดี ผู้มีอายุย่างเข้าวัยชรา ก็พากันลูบหนวดเคราแย้มยิ้มอย่างเบิกบานสำราญใจ เสียงยกย่องชมเชย เสียงโห่ร้องได้กึกก้องไปจนทั่วทั้งบ่วยฮวยปี
"ประเสริฐแท้ ซิ่งท้งเอาชัยก๊กชิ้ว (มือหนึ่งของประเทศ) ได้ … ซิ่งท้งเอาชัยก๊กชิ้วได้"
"ร้ายกาจนัก เพิ่งมีอายุเพียงสิบสามปีเท่านั้นเอง"
"หามิได้ สิบสองปีบริบูรณ์กว่าเล็กน้อยเท่านั้นเอง"
"ฮาฮา เล่าฮูดูออกแต่แรกแล้วว่า เด็กผู้นี้มิใช่ธรรมดาสามัญ …"
"เฮอะ เด็กผู้นี้นับว่ามีอัจฉริยะที่สวรรค์ประทานพรมาอย่างแท้จริงทีเดียว แต่เสียดายที่ไร้บิดา …"


      Post Request

 

 

หอสะสมตำรา
หอสะสมตำรา (ว. ณ เมืองลุง)