เนื้อเรื่องย่อ :

บทที่ 1
นักฆ่าค้างคาวดำ

ขอบฟ้าเพิ่งสางรำไร ตามถนนหนทางในเมืองฮั่งจิวยังไม่มีผู้คนสัญจร แต่ที่ปากซอยตังเกากลับมีเงาร่างสีดำของชายกลางคนผู้หนึ่งพลิ้วควับเข้าไป
ใบหน้าของคนชุดดำชาด้านปานซากศพ สวมหมวกอ้วนวั่ว ประกายตาทั้งสองแวววาวราวกระบี่สองเล่ม คมกล้าจนไม่มีผู้คนกล้าประสานสู้ โชคดีที่ตอนนี้ในซอยยังไม่มีผู้คน
มันก็คือนักฆ่ามืออาชีพฉายาค้างคาว ที่มีชื่อสะท้านสะเทือนยุทธจักรมาสิบกว่าปีแล้ว !
สิบกว่าปีมานี้ นักฆ่าที่เกิดขึ้นพร้อมกับค้างคาว ไม่ใช่เพลี่ยงพล้ำถูกฆ่า ก็เป็นถอนตัวออกหลบหน้าสำรวม มีเพียงค้างคาวอยู่นอกเหลือกฎนี้!
สิบกว่าปีที่ผ่านมา ไม่เคยมีผู้คนทราบศักดิ์ศรีของมันและไม่เคยมีผู้ใดหลบหนีการสังหารของมันได้!
เสียงกระดิ่งดังสดใสแว่วมา ในสายลมอรุณ หอมกลิ่นพิกลติดตามมาด้วย เท้าของค้างคาวดำชะงักวูบ พลันพุ่งควับขึ้นไปบนหลังคาของบ้านหลังหนึ่ง
พลันเพิ่งซ่อนตัวเรียบร้อย รถบรรทุกถังอุจจาระคันหนึ่งถูกเข็นเข้ามา เฒ่าซอมซ่อที่เข็นอุจจาระ สั่นกระดิ่งหนักหน่วงถี่เร็ว ประตูบ้านในซอยทยอยเปิดออก ถังอุจจาระใหญ่ๆเล็กๆลักษณะแตกต่างกัน ถูกยกออกมาวางไว้ที่หน้าประตู อากาศทั้งซอย กลับกลายเป็นกลิ่นเหม็นจนผู้คนแทบต้องอาเจียน
แต่ค้างคาวคล้ายมิได้รู้สึกเลย งอตัวลัดเลาะอยู่ทางด้านหลังของสันหลังคา กระโดดจากหลังนี้ไปอีกหลังหนึ่งในที่สุดจึงหยุดลง
เบื้องหน้าเป็นตึกกลางเก่ากลางใหม่ ไม่ใหญ่ไม่เล็ก นับเป็นบ้านธรรมดาสามัญยิ่ง มีเอียเท้าเยาว์วัยนางหนึ่งยืนที่หน้าประตู กำลังรอให้รถอุจจาระมา
เอียเท้าเยาว์วัยแม้มีหน้าตาคมคายสดใส แต่ไม่ใช่เป้าหมายของเพียงฮก (ค้างคาว) เป้าหมายของมันคือจี้ทั้งทิเกี่ยม (กระบี่เหล็กแห่งจี้ทั้ง) คำเม่งเหลียงประมุขของบ้านนี้
กระบี่เหล็กแห่งจี้ทั้ง เป็นคนที่คล้ายบ้านของมันราบเรียบสมถะ แต่ไม่ธรรมดาเด็ดขาด
หลายปีที่ผ่าน ชื่อเสียงอันเกรียงไกรของมัน ครอบคลุมเหนือชาวยุทธทุกผู้คนในละแวกใกล้เคียงนครจี้ทั้งนี้
วิทยายุทธสูงส่ง จิตใจเปิดเผยห้าวหาญ บูชาคุณธรรมกว่าชีวิต คือจุดเด่นเป็นพิเศษของคำเม่งเหลียง และก็เป็นสาเหตุที่ชื่อเสียงของมันกระเดื่องเกรียงไกรไปทั่วดินแดนนี้
ใช่เนื่องเพราะต้นไม้ใหญ่ต้องต้านลมแรง เป็นชนวนให้คนบังเกิดจิตริษยาจนกลายเป็นแค้น ว่าจ้างค้างคาวให้มาสังหารมัน ? ประการนี้ กระทั่งค่างคาวก็ไม่ทราบ !
ค้างคาวได้รับการฝึกฝนมาจากโอวอา (อีกา) รู้จักแต่ฟังคำสั่งมัน แต่ละครั้งที่ฆ่าคน ล้วนปฏิบัติตามคำสั่งอีกาที่ระบุลงมา
ค้างคาวกับอีกา ย่อมเป็นเครื่องหมายคำเรียกหาเท่านั้น แต่ทว่า อีกาทราบทุกประการของค้างคาวกระจ่างปานนิ้วในฝ่ามือ ค้างคาวกลับไม่ทราบเรื่องของอีกาเลยสักนิดเดียว ในระหว่างพวกมันมีการตกลงกันอยู่ ค้างคาวต้องฆ่าให้กับอีกาสิบสองคน จากนั้น จึงได้รับอิสระเสรีคืนมา
ค้างคาวฆ่าคนย่อมมีคุณค่า แต่คุณค่าไม่สูงนักเนื่องเพราะว่าค่าจ้างส่วนมากถูกอีกาฮุบหมดสิ้น ค้างคาวเป็นอีกาฝึกสอนมา การค้าก็เป็นอีกาติดต่อรับมา จึงกล่าวได้ว่า อีกาคือ "เถ้าแก่" ของค้างคาว
นอกจากนี้ ในระหว่างพวกมัน ยังมีข้อตกลงเป็นความลับอยู่ประการหนึ่ง นั่นคือค้างคาวจำต้องฆ่าอีกสามคนให้แก่อีกา โดยไม่ได้รับค่าตอบแทน ซึ่งหมายความสามคนที่ถูกฆ่า เป็นการ "สมนาคุณ" ให้อีกาที่คืนอิสระเสรีแก่มัน
โชคดีที่มันได้ฆ่าคนเช่นนั้นไปสองคนแล้ว เพียงขาดอีกคนเดียว ก็จะเสร็จสิ้นตามข้อตกลงกัน
สองคนนั้น ล้วนเป็นยอดฝีมือชื่อเสียงกระเดื่องเลื่องลือ คนแรกคือเลี่ยงจูชิ้ว (หัตถ์กระสุนสัมพันธ์) แซ่เชยปี้ ที่มีชื่อเสียงครอบคลุมทั้งดินแดนกังปัก อาวุธลับของมันเลอเลิศปานปฏิหาริย์ ดุจมีหนึ่งพันแขนเช่นเดียวกับนามของมัน นอกจากศิษย์ตระกูลทั้งในเสฉวนแล้ว ไม่มีผู้ใดสามารถทัดเทียมได้
แต่ทว่า มันกลับต้องตายในกระบี่ค้างคาว เพียงกระบี่เดียวก็สิ้นชีวิต รวดเร็วจนกระทั่ง อาวุธลับของมันยังไม่ทันซัดออกมาต่อต้านเลย
คดีรายนี้ บันดาลให้ชื่อเสียงค้างคาวสะท้านสะเทือนแผ่นดิน และก็เพิ่มความมั่นใจแก่มันเป็นร้อยเท่า !
คนที่สองยังมีชื่อเสียงเกรียงไกรกว่าเจียงเชยปี้เสียอีก พลังฝีมือก็เหนือกว่ามากหลาย แต่ค้างคาวตามไปที่เหลาจุ้ยเซียน อาศัยยาชากระจุกเดียว เพิ่มมีดบินอีกเล่มก็ยุติชีวิตที่รุ่งโรจน์โชติช่วงของมันได้ !
คนผู้นั้น คือเฮ็กซั๊วะแช (ดาวมหากาฬ) แป๊ะเกาฉี่ ที่มีอำนาจบารมีสูงส่ง จนคล้ายเป็นประมุขชาวยุทธดินแดนกังหนำ (ภาคใต้ลำน้ำแยงซีเกียง) แล้ว !
แป๊ะเกาฉี่รับมือกับศัตรูด้วยความโหดเหี้ยมดุดัน ชาวยุทธฝ่ายอธรรมมิจฉาชีพเมื่อเผชิญกับมัน ไม่ใช่ตายก็ต้องบาดเจ็บจนทุพพลภาพ ดังนั้น จึงได้รับฉายาเป็นดาวมหากาฬ แต่ค้างคาวยังโหดเหี้ยมยิ่งกว่ามัน ยอดเยี่ยมยิ่งกว่ามัน !
หลังจากนั้น ค้างคาวก็รู้สึก ในพิภพจบแดนไม่มีคนที่มิอาจฆ่าได้ ขอเพียงยินยอมใช้ภูมิปัญญา ไหวพริบปฏิภาณ ครุ่นคิดวางแผน บวกกับความหนักแน่นเยือกเย็นพลังฝีมือที่รวดเร็วสูงส่ง เป้าหมายทั้งมวลก็จะล้มลงไปได้โดยราบรื่น
ใช่เป็นเช่นนี้จริงหรือไม่ ? ยังมิอาจยืนยันได้โดยสิ้นเชิง แต่อย่างน้อยจวบจนบัดนี้ เป็นดั่งนั้นจริงๆ
สิบกว่าปีที่ผ่าน ค้างคาวคือสัญลักษณ์ของความตาย โหดเหี้ยม และเร้นลับ ไม่มีคนสามารถหลบหนีการจู่โจมสังหารของมันไปได้เลย !
แต่ทว่า ค้างคาวมิได้ผยองลำพอง ดูแคลนศัตรู เพราะสาเหตุนี้ ตรงกันข้าว ยิ่งระมัดระวัง รอบคอบสุขุม มิเช่นนั้น มันต้องไม่ใช่ค้างคาว แต่เป็นซากศพไปเนิ่นนานแล้ว
มันจะฆ่ากระบี่เหล็กแห่งจี้ทั้งคำเม่งเหลียงผู้นี้ มันต้องมาฮั่งจิวก่อนกำหนดถึงยี่สิบวัน ยี่สิบวันนี้ มันมิได้ซ่อนตัวหลบพักผ่อนในโรงเตี้ยม แต่ดำเนินงานของมันด้วยความขยันขันแข็ง รอบคอบสุขุม
แต่ละครั้งที่ฆ่าคน มันต่างต้องเข้าใจทุกประการของผู้ที่จะถูกฆ่า รวมทั้งนิสัย จิตใจ รสนิยม คนในบ้านและมิตรสหายของมัน ยังมีพลังฝีมือ และจุดเด่นของมันอีกด้วย
สามวันก่อน มันสืบเสาะจนกระจ่างชัดเจนแล้ว แต่ยังคงใคร่ครวญแผนของมันซ้ำแล้วซ้ำอีก จวบจนแน่ใจมีทางประสบความสำเร็จถึงเก้าส่วนครึ่ง จึงได้ดำเนินการเคลื่อนไหว
วันที่ดำเนินการเคลื่อนไหว คือเช้าวันนี้เอง แรมแปดค่ำเดือนหก เวลารุ่งสาง !
ตอนนี้มันกำลังเตรียมลงมืออยู่ เมื่อสามสิบเจ็ดวันก่อน อีกาได้ส่งคำสั่งฆ่าคนครั้งที่สิบให้แก่มัน
ความเป็นอยู่ของคำเม่งเหลียงแม้ราบเรียบสมถะแต่มันมีความบกพร่องอยู่ประการ คือชอบดื่มสุราร้อนแรงที่สุด โดยเฉพาะในยามวิกาบ ด่มสุราแล้วมีจิตใจคึกคักแจ่มใสเป็นพิเศษ แต่ทว่า เช้าวันรุ่งขึ้นก็มีอาการผิดปกติ…..ไอ คอแห้งผาก และศรีษะมึนงง (เมาค้าง)
มาตรว่าสามประการนี้ สืบสาวแล้วไม่อาจเป็นเภทภัยต่อมันได้ แต่แผนของค้างคาว ต้องการใช้ความบกพร่องเล็กๆน้อยๆ นี้ของมันให้เป็นประโยชน์ !
เนื่องเพราะตอนเช้าจะรู้สึกคอแห้งผากและไอ ดังนั้น คำเม่งเหลียงจึงเพาะจนกลายเป็นนิสัย แต่ละเช้าตรู่ต้องไปดื่มน้ำชาที่เทียนเฮียงเล้า ดื่มน้ำชาเล่งแจ๊ (บ่อมังกร) ที่ขึ้นชื่อของเมืองนี้ และยังมีมิตรสหายจำนวนมากไปร่วมดื่มกับมันด้วย
แต่ทว่า ค้างคาวยังสืบทราบอีกเรื่องหนึ่ง บรรดามิตรสหายของมัน ต่างรอมันอยู่ที่ร้านน้ำชาเทียนเฮียงเล้าก่อน ซึ่งหมายความ ระยะทางที่คำเม่งเหลียงออกจากบ้านถึงเทียนเฮียงเล้า มันไปโดยโดดเดี่ยวลำพังตัว
จากสองประการนี้ ค้างคาวได้ระบุเวลา และสถานที่สังหารของมันมาได้ และยังต้องใช้เฒ่าซอมซ่อที่ขนรถอุจจาระเป็นเครื่องมืออีกด้วย แผนทั้งมวลของมัน กล่าวได้ว่า แนบเนียนไม่มีจุดอ่อนเลยสักน้อยนิด
แผนอย่างไรก็เป็นแผน ยามดำเนินตามแผน มักจะเกิดการเปลี่ยนแปรที่ผิดคาดหมายอยู่เสมอ ดังนั้น ค้างคาวยังคงไม่กล้าชะล่าใจ ตามองสี่ทิศหูฟังแปดทาง เกร็งกำลังภายในออกสู่ทุกส่วนสัดในร่าง จนมีสภาพคล้ายเสือดำบนคบไม้ พร้อมจะโถมลงกินคนได้ทุกเวลา
เสียงติงตังของกระดิ่งที่เฒ่าซอมซ่อเขย่าดังขึ้นกว่าเดิม เมื่อเข็นรถบรรทุกอุจจาระถึงหน้าประตูตระกูลคำ อากาศยิ่งเหม็นคลุ้งจนฉุนเฉียวกว่าเดิม
เอียเท้าเทอุจจาระในถัง หิ้วถังน้ำล้างอุจจาระที่ร่องน้ำข้างประตูนั้นเอง จากนั้นจึงเข้าบ้าน แต่นางมิได้ปิดประตูบ้านไว้
ขณะเวลานั้นเอง มีเสียงไอถี่ๆดังมาจากภายใน ดวงตาค้างคาวกระจ่างแจ่มใส ทราบว่าคำเม่งเหลียงจะออกมาแล้ว ดังนั้น ร่างที่สันหลังคาของมัน เริ่มเคลื่อนมาที่เบื้องหน้าอย่างเชื่องช้า
เสียงไอยิ่งนานยิ่งใกล้ ในที่สุด ปรากฏร่างชายกลางคนหน้าสี่เหลี่ยมผิวดำคล้ำ จมูกแดงระเรื่อเดินออกมา มันก็คือคำเม่งเหลียงฉายากระบี่เหล็กแห่งจี้ทั้งนั่นเอง
ค้างคาวฉวยเวลาที่มันหันร่างปิดประตู ม้วนตัวพุ่งลงจากหลังคา มิได้ทิ้งร่างลงในซอยตังเกา แต่อยู่ในซอกแคบๆของระหว่างบ้านสองหลังในซอยตังเกานั้น
ซอกแคบอย่างยิ่ง เพียงพอให้คนสองคนเดินเฉียดไหล่กันไป ตอนนี้ย่อมไม่มีคนเดิน ค้างคาวเร่งฝีเท้าอย่างรวดเร็ว ผ่านซอกแคบๆนั้นมาที่ซอยตังเกา
รถเข็นอุจจาระพอดีมาหยุดที่เบื้องหน้ามัน สตรีกลางคนนางหนึ่ง กำลังยกถังอุจจาระให้แก่เฒ่าซอมซ่อไปเท และคำเม่งเหลียงก็ได้เดินมาถึงด้านหลังของเฒ่าซอมซ่อแล้ว
เรื่องราวทั้งมวลนี้ ไม่ผิดไปจากแผนที่มันคำนวณอยู่ก่อนเลยสักน้อยนิด !
ดวงตาค้างคาวเป็นประกายวูบ เร่งฝีเท้าไปที่ข้างรถอุจจาระ เนื่องจากซอยแคบ เมื่อรถอุจจาระขวางอยู่อีกคัน กอปรกับถังอุจจาระที่ตั้งอยู่สองฟากข้าง จึงไม่มีที่ว่างสักเท่าใด ดังนั้น คำเม่งเหลียงจำต้องยืนอยู่ด้านหลังเฒ่าซอมซ่อ เปิดทางให้ค้างคาวผ่านไปก่อน
โอกาสที่ยากจะหามาถึงแล้ว มือซ้ายค้างคาวพลันผลักไปที่รถอุจจาระ รถอุจจาระพุ่งเข้าใส่เฒ่าซอมซ่ออย่างรวดเร็ว
เสียงโครมดังสนั่น เฒ่าซอมซ่อหงายไปด้านหลัง ถังอุจจาระในมือจึงถูกโยนขึ้นไปตามสัญชาตญาณ
เรื่องทั้งมวลนี้ แม้ไม่มีลางบอกเหตุอยู่ก่อน แต่คำเม่งเหลียงไม่เสียทีเป็นยอดฝีมือฝ่ายธรรมะ ปฏิกิริยารวดเร็วยิ่งนัก รีบยกมือดันหลังเฒ่าซอมซ่อไว้
พริบตาที่เฒ่าซอมซ่อหงายหลัง มือขวาของค้างคาวพลิกขึ้น มีกระบี่ยาวสามเชี๊ยะแปดนิ้วเพิ่มมาอีกเล่มหนึ่งทันที
จากนั้นเหยียดแขนขวา แต่กระบี่มิใช่แทงเข้าที่คำเม่งเหลียง กลับแทงเข้าใส่เฒ่าซอมซ่อที่มีอาชีพเข็นรถอุจจาระ !
เสียงถังอุจจาระที่ร่วงลงมากระแทกพื้น กลบเสียงรังสีกระบี่กรีดอากาศไปหมดสิ้น กระบี่ยาวแทงเข้าใส่ทรวงอกเฒ่าซอมซ่อ !
คำเม่งเหลียงถูกร่างเฒ่าซอมซ่อบดบังสายตา ไม่อาจเห็นทุกประการได้ ในพริบตาที่เร็วกว่าประกายไฟ ค้างคาวพลันกระโดดขึ้นสูงสี่เชี๊ยะ เท้าขวาเตะใส่ด้ามกระบี่ กระบี่พุ่งทะลุทรวงอกออกไป !
พลังเท้าคราวนี้หนักกว่าหนึ่งพันชั่ง เตะจนทั้งกระบี่ทั้งร่างเฒ่าซอมซ่อปลิวกระเด็น กระแทกเข้ไปในอ้อมอกของคำเม่งเหลียง ปลายกระบี่ก๋แทงเข้าใส่หว่างกลางทรวงอกของคำเม่งเหลียงด้วย !
ในเวลาแทบพร้อมกัน เฒ่าซอมซ่อแผดร้องสุดเสียง ร่างอ่อนระทวยรูดลงย่อมพากระบี่รูดตามไปด้วย กระบี่คมกริบจึงกรีดตั้งแต่ทรวงอกคำเม่งเหลียง ลงไปถึงท้องน้อยยาวหกเจ็ดนิ้ว โลหิตฉีดทะลักลงสู่พื้นศิลา ส่งเสียงที่น่าหวาดหวั่นสยองขวัญขึ้น !
คำเม่งเหลียงตะเกียกตะกาย ยังไม่สามารถลุกขึ้นยืนได้ มือขวาค้างคาวตะปบไป กระชากด้ามกระบี่กลับมา จากนั้น เกาทัณฑ์โลหิตสายหนึ่งฉีดตามปลายกระบี่ เฒ่าซอมซ่อกับคำเม่งเหลียง พากันล้มฮวบลงไปกองกับพื้น !
เรื่องราวทั้งมวลเหล่านี้บอกเล่าแล้วเชื่องช้า แต่ความจริง รวดเร็วปานสายฟ้าแลบขึ้นแว่บเดียว และจวบจนตอนนั้น สตรีที่สองฟาก จึงได้ส่งเสียงกรีดร้องด้วยความตระหนกจนสับสนอลหม่าน
เสียงกรีดร้องไม่ทันขาดหาย ค้างคาวทิ้งกระบี่ไปหันกายพลิ้วเข้าซอกตึกอีกครั้ง
มันเร่งฝีเท้าผ่านซอกแคบออกซอย ทะลุซอยสู่ถนนใหญ่ วกเข้าตรอกอีกสายหนึ่ง จนแน่ใจไม่มีผู้คนติดตามหลังมา จึงฉีกชุดดำของมันอย่างรวดเร็ว ถอดหมวกอ้วนวั่วเหวี่ยงทิ้ง เผยเห็นอาภรณ์รัดกุมสีขาวสะอาดปานหิมะที่ชั้นใน ยกมือลูบหน้าอีกครั้ง ปรากฏใบหน้าบุรุษหนุ่มที่คมคายแจ่มใสมา !
มันคล้ายเป็ยปักษาหวาดหวั่นเกาทัณฑ์ กวาดตามองรอบข้างอีกครั้ง บนหน้าผากพลันมีเหงื่อเย็นเยียบซึมออกมาเป็นเส้นสาย จากนั้นนั่งยองๆลงไปที่ข้างผนังกำแพงอ้าปากอาเจียนออกมา อาเจียนอย่างทรมานอย่างยิ่งกระทั่งน้ำในดียังแทบถูกอาเจียนออกมาด้วย
จนครู่ใหญ่ให้หลัง มันจึงทรุดกายด้วยความลำบากยากเข็ญ ใบหน้าที่ดูไปหล่อเหลาคมคาย แต่ซีดขาวจนน่าหวาดกลัวยิ่ง ริมฝีปากยังเป็นวีเขียวซีดอีกด้วย ดุจกับผ่านการป่วยหนักมาก็ปาน จากนั้น ก้าวช้าๆออกจากตรอกน้อยไป
นักฆ่าค้างคาวดำ ที่มีชื่อเสียงกระเดื่องเลื่องลือในยุทธจักรมาถึงสิบปี ถึงกับเป็นบุรุษหนุ่มเยาว์วัยปานนี้ ?
ค้างคาวที่ฆ่าคนมานับไม่ถ้วน หลังจากฆ่าคนแล้ว ถึงกับสะอิดสะเอียนจนอาเจียนได้ ? !
นับเป็นเรื่องที่ผู้คนยากจะเชื่อถือ และก็เป็นความลับของค้างคาวตัวนี้ด้วย !

อ้างอิง : นักฆ่าค้างคาวดำ เล่ม 1 โดย ว. ณ เมืองลุง สนพ.บรรณาคาร 2526