นครนิรนาม

บรรณาคาร 2524
เอส พี พริ้นติ้ง 2537

ผู้แต่ง : ม่อย้งมุ้ย ผู้แปล : ว. ณ เมืองลุง
จำนวนเล่มจบ : 3 เล่มจบ - บรรณาคาร - กระดาษปรู๊ฟ - ปกแข็ง - อ้างอิงพิมพ์ปี พ.ศ. 2524
จำนวนเล่มจบ : 2 เล่มจบ - เอส พี พริ้นติ้ง - อ้างอิงพิมพ์ปี พ.ศ. 2537
ข้อมูลเพิ่มเติม :

เนื้อเรื่องย่อ :

นำเรื่อง

มันเป็นเมืองเล็กๆ ที่สกปรก เซ็งแซ่จอแจ
หากเปรียบกับอิสตรี มันก็คล้ายเป็นสตรีชนบทที่หน้าซีดเหลืองเท้าโตใหญ่ ตลอดปีไหวีสางผม ไม่ทาแป้งประทินผิว เค้าหน้าอัปลักษณ์ขัดตา แต่ส่งเสียงพร่ำบ่นตลอดวันไม่ยอมเลิกรา
เมืองเล็กๆนี้ ก็คือบ้อเมี้ยติ่ง (นครนิรนาม)
…………..
บุรุษที่นิยมตัณหาราคะ มีรสนิยมที่ผิดแปลกแตกต่าง มีแบบฉบัยที่ไม่คล้ายคลึงกัน
มีบ้างชื่นชอบ ธิดามหาเศรษฐี
มีบ้างชื่นชอบ กุลสตรีในห้องหอ
มีบ้างชื่นชอบ โฉมงามสองแปด (สิบหก)
มีบ้างชื่นชอบ เป็นม่ายหมาดๆ
และก็มีบ้างชื่นชอบ สาวใหญ่ใกล้กลางคน เพราะถือเป็นบุปผาเบ่งบานเต็มที่
มีบ้างชื่นชอบ อวบอัดสูงใหญ่
มีบ้างชื่นชอบ อ้อนแอ้นแน่งน้อย
บ้างมีความเห็น สตรีงามที่สุดอยู่ในตอน "อิดเอื้อนเอียงอาย" แต่มีบ้างเห็นว่าสตรีสมควร "เร่าร้อนรุนแรง" "ชดช้อยเปี่ยมเสน่ห์"
สรุปแล้ว บุรุษคนใดมิว่าชมชอบในตัณหาราคะเพียงใด มิว่าจะชมชอบวัยระดับใด สตรีแบบฉบับไหน เชื่อว่าต้องไม่ถือเป้า ที่เป็นสตรีทั้งอัปลักษณ์ ทั้งสกปรกทั้งซอมซ่อ ทั้งหน้าซีดเหลืองเท้าใหญ่โตเป็นแน่แท้
"สตรีจีนสมัยนั้น พออายุหกเจ็ดขวบก็จะรัดเท้ากันไว้ไม่ให้โตตามวัย เพราะถือเท้า "บัวทองสามนิ้ว" มีเสน่ห์รัดรึงใจที่สุด)
นั่นคือจิตใจธรรมดาของมนุษย์เรา
แต่หากมีคนคาดคิดคำนวณตามความนี้ เข้าใจว่าบ้อเมี้ยติ่งเป็นสถานที่ป่าเถื่อนกันดาร จนต้องปลีกตัวหนีหน้าให้ห่างไกล นั่นก็เป็นความผิดแล้วผิดอีกที่อุกฤษฏ์ยิ่ง
เนื่องเพราะนครนิรนามนี้ แม้ดูไปจะคล้ายเป็นสตรีชนบทหน้าซีดเหลืองเท้าโตใหญ่ เค้าทั้งอัปลักษณ์ทั้งสกปรกซอมซ่อ แต่ความจริง เสน่ห์ของสตรีเท้าใหญ่มีอยู่ไม่น้อยเลย สำหรับเสน่ห์ของสตรีเท้าใหญ่อยู่ที่ใดกันแน่ มีแต่คนที่เคยไปในนครนิรนาม จึงจะเข้าใจได้ซาบซึ้งตรึงใจ
นครนิรนาม อยู่ที่เชิงเขาเปลี่ยวร้างกันดาร ห่างจากทางหลวงใหญ่ไกลอย่างยิ่ง
ภูเขาเปลี่ยวร้างกันดาร ในเมืองเล็กๆไม่เปลี่ยวร้างกันดาร
ถนนของมันแม้จะแคบเล็กก่ายกันสับสน ไม่เป็นระเบียบไม่มีผังเมือง แต่กิจการค้าต่างๆในเมืองมีอยู่ครบครัน
โรงเตี๊ยม เหลาสุรา ซ่องคณิกา บ่อนการพนัน อาชีพสำคัญทั้งสี่ที่เมืองใหญ่ใดๆต้องมีไว้ ในนครนิรนามมิเพียงมีเท่านั้น ยังมีมากเป็นพิเศษอีกด้วย
หากวิจารณ์ตามชัยภูมิที่เปลี่ยวร้างกันดาร มีผลิตผลน้อยกว่าน้อยของนครนิรนามมาว่ากล่าว อาชีพที่กล่าวมาแล้วนั้น แม้จะมีเพียงอย่างละหนึ่งเดียว น่ากลัวก็ยากจะประคับประคองให้อยู่ต่อไปได้
แต่ทว่า คล้ายดั่งเป็นปรากฏการณ์พิสดารก็ปาน ในนครนิรนาม อาชีพทั้งสี่นั้น ถึงกับมักจะมีผู้มาอุดหนุนจนแออัดเกินไป เปรียบกับอาชีพอื่นๆ มักจะคึกคักกว่าเสมอ
พร้อมกันนั้น ผู้อุดกนุนต่างมิใช่เป็นคนผ่านทาง แต่เป็นลูกค้าคุ้นเคย หรือเป็นลูกค้าประจำ
เนื่องเพราะพวกเหล่านี้ไปๆมาๆ เป้าหมายสุดท้ายของพวกมัน คือนครนิรนามแห่งนี้เอง
ทุกคนไม่ย่อท้อต่อการตรากตรำทางไกล มักจะดั้นด้นไปในเมืองเล็กๆ ที่เปลี่ยวร้างกันดารแห่งนี้ ใช่ว่าเนื่องเพราะในเมืองแห่งนี้ มีการค้าบางชนิดที่พิเศษเหนือกว่าเมืองอื่นๆ ?
ย่อมไม่ใช่
สาเหคตุที่แท้จริง เนื่องเพราะในเมืองมีสถานที่เร้นลับแต่เร้าใจอย่างยิ่งอยู่แห่งหนึ่ง
บ้อคี้ปุ้กอู๋เล้า (หอรวมมหัศจรรย์) !
…………..
บ้อคี้ปุ้กอู๋เล้า (หอรวมมหัศจรรย์) !
ไม่ใช่ทิวทัศน์สวยงามขึ้นชื่อ
ไม่ใช่เป็นปูชนียสถานโบราณ
มันเป็นศูนย์การค้าที่พิเศษพิสดารทีสุด !
………………
บ้อคี้ปุ้กอู๋เล้า (หอรวมมหัศจรรย์) !
ตีความตามนาม ในเมื่อมันเป็นศูนย์การค้าใหญ่ ย่อมต้องมีสินค้าพิเศษพิสดารใดๆอยู่ครบครัน ย่อมต้องเป็นสถานที่ มีผู้ซื้อและผู้ขายของพิเศษพิสดารนั้น
ไม่ผิดแม้แต่น้อย หอรวมมหัศจรรย์ เป็นสถานที่เช่นนี้จริงๆ
ในเมืองใหญ่ ในนครหลวง ขอเพียงท่านมีเงิน ท่านพร้อมที่จะซื้อหาได้ไข่มุก มรกต บุศราคัม ขนเตียว โสมอย่างดี วัตถุโบราณ ภาพวาดโบราณ อัสดรอันลือชื่อ อาวุธวิเศษ
แต่ท่านต้องไม่มีทางซื้อหาได้คัมภีร์หมัดมวยอาวุธวิธีปรุงยาพิษและขจัดพิษต่างๆ หรือความลับของคนผู้หนึ่ง ผู้ใดมา !
ของที่หาซื้อที่อื่นไม่ได้ ที่นี้ต่างมีครบครัน
รวมทั้งศีรษะคนด้วย !
ขอเพียงท่านยอมทุ่มเทเงินทองตามจำนวนที่ประเมินได้ ชำระเงินมัดจำไปก่อน ไม่มีของให้ในทันที ก็มีกำหนดเวลามอบของ ยังมีประการหนึ่งที่ให้ท่านวางใจได้คือ วิธีการซื้อขายพิเศษอย่างยิ่ง มิว่าท่านเป็นผู้ซื้อหรือผู้ขาย ท่านต่างไม่ต้องหวั่นกังวล หลังเรื่องราว อาจจะถูกแพร่งพรายศักดิ์ศรี ให้มีเรื่องยุ่งยากรำคาญตามมาในภายหลัง
ประการนี้ ประมุขหอรวมมหัศจรรย์ ประกันให้ท่านได้เต็มที่
เงินหุนหนึ่ง สินค้าหุนหนึ่ง
ภาษามือที่เร้นลับ การประมูลที่เปิดเผย
ประมูลราคาสามครั้ง เสียงค้อนตัดสินดังขึ้นครั้งหนึ่ง
ประมุขของหอรวมมหัศจรรย์เป็นผู้ดำเนินการค้าขายรับผิดชอบโดยยุติธรรม ไม่ให้ฝ่ายซื้อหรือฝ่ายขาย ต้องเสียเปรียบหลงกลโดยเด็ดขาด
แต่ให้ประเสริฐสุด ท่านก็อย่าคิดจะให้ประมุขหอรวมมหัศจรรย์เสียเปรียบหลงกลเป็นอันขาด
นอกจากท่านยากจนเข็ญใจจนวิกลจริต หรือเบื่อหน่ายชีวิตแล้ว นั่นย่อมเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่มิอาจวิจารณ์ร่วมกัน
ประมุขหอรวมมหัศจรรย์นามแป๊ะทีเต็ง
ทุกผู้คนเมื่ออยู่ต่อหน้า ต่างเรียกมันว่าแป๊ะตั้วเอี้ย (เจ้านายแซ่แป๊ะ) แต่ลับหลังต่างเรียกมันว่า แป๊ะฮักจื้อ (ตาบอดแซ่แป๊ะ)
แป๊ะทีเต็ง (จุดตะเกียงกลางวัน) นัยน์ตาไม่มีโรคภัยใดแม้แต่น้อย
แป๊ะฮักจื้อ (ตาบอดแซ่แป๊ะ) เป็นเพียงฉายา
ที่ทุกผู้คนตั้งฉายานี้ให้แก่มัน มีสาเหตุอยู่สองสถาน หนึ่งคือ นามแป๊ะทีเต็งของมันพิกลเกินไป ตะเกียงนั้นจุดเวลากลางคืน กลางวันจุดตะเกียงไปไย ? จุดตะเกียงกลางวัน แสงตะเกียงไม่สว่าง มีแต่คนตาบอด จึงไม่เข้าใจเหตุผลนี้
สองคือ นัยน์ตาทั้งคู่ของแป๊ะตั้วเอี้ย มิเพียงไม่มีโรคภัยเท่านั้น ยังปราดเปรียวคมกล้ายิ่งกว้านัยน์ตาของผู้ใดทั้งสิ้น มิว่าของเทียมที่สร้างเลียนแบบได้ยอดเยี่ยมปานใด อย่าหมายตบตาคมกล้าทั้งสองข้างของมันไปได้ ที่ทุกผู้คนเรียกมันว่าแป๊ะฮักจื้อ (ตาบอดแซ่แป๊ะ) นั่นเป็นฉายาที่มีความหมายทั้งอิจฉา ทั้งริษยานั่นเอง
หอรวมมหัศจรรย์ แต่ละเดือนจะเปิดการค้าในวันขึ้นห้าค่ำเพียงหนึ่งครั้ง ซึ่งเป็นกำหนดที่ระบุไว้แน่นอน
และการค้าแต่ละครั้ง จำกัดอยู่เพียงวันเดียว
หากพลาดโอกาสวันนั้นไป มิว่าท่านคิดจะซื้อของวิเศษหรือขายของวิเศษ ต่างต้องรออีกเดือนหนึ่ง โดยไม่มีทางอนุโลมผ่อนปรนได้เลย
นี่ก็คือสาเหตุ ที่กิจการค้าต่างๆในเมืองรุ่งเรืองคึกคัก เซ็งแซ่จอแจเป็นพิเศษ
ขึ้นห้าค่ำเดือนก่อน หอรวมมหัศจรรย์มีการค้าสามราย
หนึ่งคือ จิ้งหรีดที่แกะสลักจากหยกสีเหลือง ด้วยฝีมืองามประณีตดั่งมีชีวิต
สองคือ นิ้วข้างหนึ่งของคนเป็นๆผู้หนึ่ง
สามคือ บ้วนเอ้งซั่ว (ยาผงหมื่นสรรพคุณ) ซึ่งเป็นยาขจัดพิษดีที่สุดขวดหนึ่ง
การค้าทั้งสามรายนั้น ต่างมีราคาเดียวกัน….ห้าหมื่นตำลึงถ้วนๆ !
ขึ้นห้าค่ำเดือนนี้ หอรวมมหัศจรรย์จะเปิดซื้อขายกี่รายกันแน่ ? !

อ้างอิง : นครนิรนาม เล่ม 1 แปลโดย ว. ณ เมืองลุง สนพ.บรรณาคาร 2524


      Post Request

 

 

หอสะสมตำรา
หอสะสมตำรา (ว. ณ เมืองลุง)