|
เนื้อเรื่องย่อ : ม้อถะ (หออสูร) หอสูงยี่สิบกว่าวา
มีเก้าชั้น ไม่มีผู้ใดทราบว่า ใครเป็นคนสร้าง กระทั่งนามที่แท้จริงของหอก็ไม่รู้
แต่เนื่องจาก มิว่ายอดฝีมือที่เก่งกล้าปานใด เมื่อเข้ามาในหอ ไม่มีผู้ใดรอดกลับไปได้แม้สักคนเดียว
กองกระดูกที่ขาวโพลนร่ายรอบหอแห่งนี้ จนถูกขนานนามว่า ม้อถะ (หออสูร) !
กระบี่เผด็จศึก ไม่ระบุผู้แต่ง
ว.ณ เมืองลุง-แปล
สำนักพิมพ์บรรณาคาร ฉบับปี ๒๕๒๓
ได้รับความอนุเคราะห์เนื้อเรื่อง และ จัดพิมพ์โดยท่าน จิวไซตือ
นำเรื่อง
เมฆหมอกลอยคลอเคล้า เลือนลางดั่งมายาภาพ
แสงสีสนธยาลูบไล้ คล้ายมลายแต่ยังปรากฏ
นั่นคือสถานที่ซึ่งชนชาวบู๊ลิ้มถือว่าเร้นลับที่สุด ปรารถนาใคร่จะได้ไปเป็นที่สุด
ม้อถะ
(หออสูร) !
ม้อถะ (หออสูร) สูงยี่สิบกว่าวา มีอยู่เก้าชั้น สร้างเมื่อฤดูหนาวของห้าสิบปีก่อน
แต่เป็นผู้ใดสร้างกลับไม่มีผู้คนทราบ และไม่มีผู้ใดทราบนามที่แม้จริงของหอนี้ด้วย
มันตั้งตระหง่านอยู่บนผาของยอดเขาสูงในโล้วซัวที่ทั้งปีมีแต่เมฆหมอกปกคลุมจนยากจะเห็นโฉมหน้าแท้จริง
ด้วยประวัติที่ยาวนานถึงห้าสิบปีแล้ว
ตลอดห้าสิบปีที่ผ่าน เคยมียอดฝีมือบู้ลิ้มจำนวนมากหลาย บ้างเพียงลำพัวตัว
บ้างรวมพวกเป็นกลุ่มก้อน นำพาจิตใจต้องการสืบเสาะความเร้นลับขึ้นสู่ยอดเขาสูง
หมายจะได้เห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของหออสูรที่ลึกลับหลังนี้ สืบให้ทราบความลับภายใน
แต่ทว่าไม่เคยมีผู้ใดสมปรารถนาที่มุ่งหมายไว้เลย
มิว่ายอดฝีมือใดที่ขึ้นสู่ยอดเขาสูงสุดนี้ ต่างมิเคยเห็นได้กลับลงมาเลย
ทั้งปวงต่างเข้าไปในหอแล้ว
?
ไม่ ! มิได้เข้า
ยอดฝีมือทั้งฝ่ายธัมมะและอธรรมที่ขึ้นยอดเขาไปสืบเสาะความลับต่างตายไปหมดสิ้น
ตายในพลังฝ่ามืออันพิศดารที่ไม่มีทางต่อต้านได้ ซากศพเน่าเปื่อยไปตามกาลเวลาที่ผ่าน
ทิ้งกระดูกอยู่บนลานกว้างที่ห่างจากหน้าหอประมาณสี่สิบวา
กระดูกขาวโพลงเป็นประกาย สุมเป็นกองสูงดั่งภูเขา ข่มขวัญผู้พบเห็นจนขนลุกเกรียว
หวาดหวั่นพรั่นพรึงถึงขีดสุด
ปีแล้วปีเล่า มาตรแม้นยอดฝีมือบู๊ลิ้มที่ขึ้นสืบเสาะความลับบนยอดเขา ยังคงมีไม่ขาดหาย
แต่ต่างขึ้นไปแล้วมิเห็นลงมาได้อีก ไปแล้วไปลับ ไม่เคยกลับมา !
หออสูร เจ้าของหออสูรเป็นผู้ใด ?
.
เป็นธัมมะ ? หรืออธรรม ?
ในความคิดสันนิษฐาน จากบรรดายอดฝีมือทั้งฝ่ายธัมมะและอธรรมที่ขึ้นสืบความลับบนยอดเขาแล้วไม่มีผู้ใดรอดชีวิตลงมาได้เลยสักคนหนึ่ง
ต่างมีความเห็น เจ้าของหออสูรต้องเป็นยอดฝีมือสูงสุดมิเคยเวทนาปรานี
มิเช่นนั้น ไฉนจึงสังหารผู้ขึ้นไปโดยไม่แยกว่าเป็นฝ่ายธัมมะหรืออธรรม ?
เมื่อสามสิบปีก่อน สี่ในเจ็ดเจ้าสำนักใหญ่บู๊ลิ้ม อาทิ เสียวลิ้ม บู๊ตึง
ง่อไบ๊ ฮั่วซัว พร้อมทั้งประมุขพรรคกระยาจกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในแผ่นดิน เคยร่วมเดินทางกันขึ้นไปบนยอดเขาสูง
หมายจะเผชิญกับเจ้าของหออสูรอันเร้นลับผู้นี้ ตำหนิมัน ไฉนจึงนิยมการเข่นฆ่าโดยอำมหิตเยี่ยงนี้
?
มิคาด สุดยอดฝีมือแห่งยุคที่มีเกียรติภูมิเกรียงไกรทั้งแผ่นดินทั้งห้าท่านนั้น
กระทั่งลานกว้างหน้าหอยังมิทันไปถึง มิทราบเป็นเพราะสาเหตุใด ต่างล่าถอยลงมาด้วยความท้อแท้
แยกย้ายกันกลับไปโดยมิบ่งบอกอย่างไร นับแต่นั้นมา ห้ามขาดมิให้ศิษย์ในสำนักไปสืบความลับของหออสูรบนยอดเขาโล้วซัวโดยเด็ดขาด
อีกหนึ่งเดือนให้หลัง ประมุขผู้ยิ่งใหญ่ทั้งห้าขึ้นไปชุมนุมบนยอดเขาเสียวซิกฮงของซงซัว
เปิดประชุมความลับสุดยอดกันขึ้น และแล้ว ต่างมอบหมายตำแหน่งเจ้าสำนักให้แก่ศิษย์รุ่นต่อไปรับแทน
แล้วปลีกตัวออกซ่อนกายไปหมดสิ้น
เพราะสาเหตุใด ?
นอกจากตัวพวกท่านทั้งห้าแล้ว ไม่มีผู้ใดทราบ เรื่องนี้คล้ายดั่งแฝงความลับอันสำคัญ
ความลับที่ยิ่งใหญ่
ความลับนั้น จวบจนวันนี้ของอีกสามสิบปีให้หลังยังคงไม่มีผู้ใดสืบทราบ เจ้าของหออสูรเป็นบุคคลใดกันแน่
? ปัจจุบัน ยังคงเป็นปริศนาของบู๊ลิ้มที่ไม่เคยมีผู้ใดเปิดเผยออกได้เลย
อสุนีบาตฟาดทำลาย
วงพวกนักเลงที่สงบมาเป็นเวลานาน พลันมีมรสุมโหมกระหน่ำมา เป็นมรสุมโลหิตที่ก่อกวนจิตใจทุกผู้คนจนสั่นไหว
!
มรสุมโหมถึงที่ใด ที่นั้นมีโลหิตหลั่งไหลเป็นท้องธาร
.
คดีฆาตกรรมที่สยดสยองตระหนกต่อผู้รับฟังเกิดขึ้นไม่หยุดยั้ง ยอดฝีมือบู๊ลิ้มฝ่ายธัมมะที่มีเกียรติภูมิเกรียงไกรมานานปี
พร้อมทั้งสุดยอดฝีมือฝ่ายอธรรมที่มีชื่อยิ่งใหญ่จำนวนมากหลาย ต่างทยอยกันถูกฆาตกรรมไปซ้ำๆ
ซ้อนๆ และยังเป็นภัยลามทั้งครอบครัว กระทั่งสัตว์เลี้ยงยังถูกสังหารสิ้น
แม้ตึกรามบ้านช่องพลอยถูกเผาผลาญเป็นเถ้าถ่านไป
ฆ่าหมดสิ้น เผาหมดสิ้น ฝีมืออำมหิตชั่วร้ายเยี่ยงนี้ เป็นที่ผู้คนต้องเคียดแค้นถึงสุดขีด
ฆาตกรที่ฆ่าคนวางเพลิงอย่างอำมหิตชั่วร้ายผู้นี้เป็นใครกัน ?
มันไฉนจึงเปิดฉากการสังหารปานคลุ้มคลั่งเยี่ยงนี้ ? สร้างคดีโลหิตที่เกรี้ยวกราดสามานย์
ปานไม่มีกมลสันดานของมนุษย์ หรือมีความอาฆาตแค้นกับบรรดายอดฝีมือทั้งฝ่ายธัมมะและอธรรม
?
ในบริเวณที่เกิดเหตุ ทั้งไม่มีร่องรอยเบาะแสแม้แต่น้อยนิด ผู้ตายไม่มีปัญญาบอกกับผู้เป็น
ผู้เป็นก็ไม่มีทางที่จะขบคิดคำนวณได้ตลอดกาล
ชนชาวนักเลงต่างหวาดหวั่นขวัญเสีย หวาดกลัวต่อคดีฆาตกรรมอันเหี้ยมอำมหิตจนอกสั่นขวัญแขวนทุกวันเวลา
แต่ทว่า คดีโลหิตระยะนั้นเกิดขึ้นโดยกระทันหันมลายสาบสูญไปโดยกระทันหันเช่นกัน
เพียงชั่วเวลาเดือนเศษ วงพวกนักเลงก็คืนกลับคืนกลับสู่ความสงบดุจคราก่อนอีกครั้ง
มาตรแม้นว่า เจ็ดสำนักหนึ่งพรรคใหญ่ของบู๊ลิ้มยุคนี้ เคยระดมยอดฝีมือเป็นจำนวนร้อย
แยกย้ายกันออกสืบเสาะร่องรอยเบาะแสของคดีฆาตกรรมอันอำมหิตโชกเลือดคราวนี้
แต่ทว่า วงพวกนักเลงกว้างใหญ่ ไหนเลยผิดกับงมเข็มในมหาสมุทร ? อย่าว่าแต่
ฆาตกรที่ชั่วช้าสามานย์ยังได้ถอนตัวจากไปโดยมิทิ้งร่องรอยใดๆ แม้แต่น้อยนิด
ดังนั้นเอง
คดีฆาตกรรมที่สยดสยองนองเลือด จึงกลายเป็นคดีมืดมนของวงพวกนักเลง ฆาตกรก็กลายเป็นปริศนาเช่นเดียวกับเจ้าของหออสูร
|